วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การเพาะปลูกมะนาว

                                                    การเพาะปลูกมะนาว



การเตรียมพื้นที่ปลูก
           1. พื้นที่ลุ่ม เตรียมพื้นที่โดยการทำคันดินให้มีความกว้างประมาณ 6-8 เมตร ส่วนสูงให้สังเกตจากปริมาณน้ำที่เคยท่วมสูงโดยให้อยู่สูงกว่า แนวระดับน้ำท่วม 50 เซนติเมตร แทงร่องหรือซอยร่องทำประตูน้ำเพื่อ ระบายน้ำเข้าออก ขนาดร่องน้ำกว้าง 1.5 เมตร ลึก เมตร พื้นที่ร่องกว้าง 0.5-0.7 เมตร ใช้ระยะปลูก 5X5 เมตร
           2. พื้นที่ดอน ควรไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืช และทำให้ดินร่วนซุย ใช้ระยะปลูก 4 x 4 - 6 x 6 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน มะนาวเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ดีในดินเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ดินเหนียว ดินทราย แต่ถ้าต้องการจะปลูกมะนาวให้เจริญงอกงามดี มี ผลดกและคุณภาพดี ก็ควรจะปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนซุย มีการระบาย น้ำดี มีอินทรียวัตถุผสมอยู่มาก และควรเลือกพื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ

วิธีการปลูก 
1. ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน
2. ควรขุดหลุมปลูกให้มีขนาดกว้างและลึกประมาณ 50 เซนติเมตร
3. ผสมดิน ปุ๋ยคอก และปุ๋ยร็อคฟอสเฟตเข้าด้วยกันในหลุมให้ สูงประมาณ ใน ของหลุม
4. ยกถุงกล้าต้นไม้วางในหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย
5. ใช้มีดที่คมกรีดถุงจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุงทั้ง ด้าน (ซ้ายและขวา)
6. ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก
7. กลบดินที่เหลือลงในหลุม
8. กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น
9. ปักไม้หลักและผูกเชือกยึด เพื่อป้องกันลมพัดโยก
10. หาวัตถุคลุมดินบริเวณโคนต้น เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง
11. รดน้ำให้โชก
12. ทำร่มเงา เพื่อช่วยพรางแสงแดด

การปฏิบัติดูแลรักษา
           
1. การให้น้ำ 
                ต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ปลูกใหม่ๆ ควรให้น้ำวันละครั้งเป็นอย่างน้อย (กรณีฝนไม่ตก) หลังจากปลูกประมาณ 15 วัน มะนาวสามารถตั้งตัวได้แล้ว ให้น้ำเดือนละ 2-3 ครั้ง และควรหา วัสดุมาคลุมดินบริเวณโคนต้น เพื่อช่วยรักษาความชื้น ควรเริ่มงดให้น้ำ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม เป็นต้นไป จนถึงช่วงออกดอกเพื่อให้มะนาวสะสม อาหารให้สูงถึงระดับที่สามารถสร้างตาดอกได้ ปกติมะนาวจะออกดอก เดือนเมษายน-พฤษภาคม หลังจากมะนาวออกดอก และกำลังติดผลอ่อน เป็นช่วงที่มะนาวต้องการน้ำมาก เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของผล
           2. การใส่ปุ๋ย 
                2.1 หลังจากมะนาวอายุได้ 3-4 เดือน ควรใส่ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก ประมาณต้นละ 0.5 กิโลกรัม กรณีใส่ปุ๋ยเคมีควรใส่หลังจาก พรวนดินกำจัดวัชพืชแล้ว โดยใส่บริเวณรอบทรงพุ่ม แล้วก็ให้น้ำตามเพื่อ ให้ปุ๋ยละลาย
                2.2 เมื่อมะนาวอายุ ปี ให้ใส่ปุ๋ยตราบัวทิพย์ สูตร ประมาณ ต้นละ 300 กรัม และเมื่อมะนาวอายุ ปี ก็เพิ่มปริมาณปุ๋ยโดยใส่ปีละ ครั้ง ๆ ละประมาณ กิโลกรัม ทั้งนี้ขี้นอยู่กับสภาพความอุดมสมบูรณ์ ของตน และเมื่อมะนาวอายุย่างเข้าปีที่ ก็จะเริ่มให้ผลผลิต
                2.3 ช่วงระยะก่อนออกดอกประมาณ 1-2 เดือน ให้ใส่ปุ๋ย เพื่อเร่งการเจริญเติบโตในระยะที่ยังไม่ออกดอก ในระยะเร่งการออกดอก ประมาณ 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ปริมาณที่ใช้ ขึ้นอยู่กับอายุของต้นพืช โดยใส่ในปริมาณครึ่งหนึ่งของอายุต้น
           3. การกำจัดวัชพืช 
                การกำจัดวัชพืชในสวนมะนาวสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ถอน ถาง หรือใช้เครื่องตัดหญ้าแต่ต้องระวังอย่าให้เกิดบาดแผลตามโคนต้น หรือกระทบกระเทือนราก วิธีกำจัดวัชพืชอีกวิธีหนึ่งที่นิยมคือการใช้สารเคมี เช่น พาราชวิท ไกลโฟเสท ดาวพอน เป็นตัน โดยการใช้จะต้องระวัง อย่าให้สารพวกนี้ปลิวไปถูกใบมะนาวเพราะอาจเกิดอันตรายได้ เช่นทำให้ ใบไหม้เหลืองเป็นจุดๆ หรือไหม้ทั้งใบ ดังนั้นจึงควรฉีดพ่นตอนลมสงบ
           4. การค้ำกิ่ง 
                เมื่อมะนาวใกล้จะผลิดอกออกผล ต้องมีการค้ำกิ่งให้กับต้นมะนาวด้วย เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหักหรือฉีกขาดโดยเฉพาะในช่วงติดผล และยังช่วยลดความเสียหาย เนื่องจากโรคและแมลงได้ โดยวิธีการค้ำกิ่ง สามารถทำได้ วิธี คือ
                1. การค้ำกิ่งโดยการใช้ไม้รวกหรือไม้ไผ่ทำเป็นง่าม สอดเข้ากับกิ่งมะนาว ให้ปลายอีกข้างหนึ่งวางตั้งรับน้ำหนักของกิ่งอยู่บนพื้นดิน แล้วใช้เชือกผูกมัดกิ่งไว้
                2. การค้ำกิ่งแบบคอกหรือนั่งร้าน โดยเอาไม้มาทำเป็นนั่งร้านรูปสี่เหลี่ยมรอบๆ ต้นมะนาวเพื่อรองรับกิ่งใหญ่ ๆ ของมะนาวไว้ อาจทำเป็น 2-3 ชั้น แล้วให้กิ่งพาดอยู่ที่ชั้นใดก็ได้ ซึ่งวิธีนี้จะมั่นคงทนทาน และใชั ประโยชน์ได้ดีกว่าวิธีแรก
           5. การตัดแต่งกิ่ง 
                เพื่อให้มะนาวมีทรงพุ่มสวยและให้ผลดกปราศจากการทำลายของโรคและแมลง การตัดแต่งกิ่งควรทำหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว โดยตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งแห้ง กิ่งที่ไม่มีประโยชน์ออกให้หมด แล้วนำไปเผาทำลาย อย่าปล่อยทิ้งไว้ตามโคนต้น เพราะจะทำให้เป็นแหล่งสะสมโรคได้


ประโยชน์ของ การปลูกมะนาว 

           มีวิตามินซีสูงมาก รักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ดี นอกจากนี้ยังมี ประโยชน์ด้านความงามโดย เอาเปลือกที่บีบเอาน้ำออกแล้ว นำมาทา บริเวณข้อศอก คาง เข่า ฝ่าเท้า ส้นเท้า จะช่วยให้ส่วนเหล่านั้นนุ่มนวลได้อย่างดี 

           สำหรับใบหน้าสามารถแก้สิวฝ้าได้ในกรณีที่สิวไม่มีการอักเสบติดเชื้อเป็นหนอง ซึ่งมะนาวจะช่วยรักษาสิวให้ลดน้อยลงได้เพราะน้ำมะนาวมีสภาวะเป็นกรดอ่อน ๆ จะทำให้เนื้อเยื่อที่ตายแล้วหลุดออกไป ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขน ช่วยกำจัดเชื้อโรคและไขมันได้ด้วย การใช้แป้งดินสอพองกับน้ำมะนาวทาบริเวณที่เป็นสิวก่อนนอนทุกวัน สิวจะค่อย ๆ ยุบหายไปในที่สุด ส่งผลให้ใบหน้าสวยใส นอกจากนี้

1.ทำเบบี้เฟซ หรือหน้าดูเด็ก
           วิธีทำ เอาน้ำมะนาวคั่นแล้วครึ่งลูก ผสมกับดินสอพองหมักทิ้งไว้สักพัก จากนั้นนำมาทาเบาๆให้ทั่วใบหน้าก่อนนอน ทิ้งไว้ คืน เช้าขึ้นมาล้างหน้าด้วยน้ำธรรมดา แล้วลองลูบไล้ใบหน้าตัวเองดุ จะรู้สึกว่าใบหน้าเราช่างลื่น นุ่มละมุนเสียนี่กระไร หมั่นทำบ่อยๆหน้าจะดูใสอ่อนวัยไปเอง
2.วิธีขจัดตีกา บนใบหน้า
           วิธีทำ นำน้ำมะนาว ส่วน น้ำผึ้ง ส่วน ผสมให้เข้ากัน นำมาทาบริเวณรอยประทับของตีนกา ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า ทำอย่างนี้วันละ ครั้ง เช้า – เย็น จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังรุ่นใหม่เจริญเติบโตขึ้นมาทดแทนเซลล์รุ่นเก่าที่รอยเหี่ยวย่น ทำบ่อยๆ ก็จะหายไปเอง
3.ทำผมสวย
           วิธีทำ เส้นผมของคนเราชอบความเป็นกรดอ่อนๆ หนังศีรษะของคนเราก็ชอบกรดอ่อนๆแต่แชมพูที่เราซื้อมา จะเป็นด่าง ด่างกับกรดก็ไม่ถูกกัน เส้นผมหนังหัว สระล้างด้วยด่างเป็นประจำ ทำให้ผมแห้งกรอบพันกัน หนังศีรษะแห้ง ตกสะเก็ดกลายเป็นรังแค ถ้าแพ้มากๆ หนังศีรษะอักเสบหรือมีผมร่วงมีสิทธิ์หัวลานได้ง่าย เมื่อสระผมเส้นแล้ว ต้องการปรับสภาพเส้นผมให้กลับมาเป็นกรดใช้มะนาว นี่แหละครีมนวดชั้นดี เพราะน้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด ให้เอาน้ำมะนาว 30 ซีซี. หรือประมาณ ช้อนชา ผสมกับน้ำ ลิตร สามารถเอามาใช้แทนครีมนวดผมได้สบายมาก
4.ใช้เป็นยาสารพัดโรค           วิธีทำ เนื่องจากมะนาวมีสรรพคุณช่วยขจัดสารพิษ สิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกายดื่มน้ำมะนาวบ่อยๆ นอกจากจะช่วยขับปัสสาวะให้สะดวกแล้ว น้ำมะนาวยังช่วยขจัดเสมหะ และแก้ไอได้ โดยการใช้มะนาว น้ำผึ้ง น้ำสุก อย่างละเท่าๆกัน ผสมให้เข้ากันและค่อยจิบ จิบจนหมด แต่ต้องไม่ลืมบ้วนปาก เพราะถ้ากรดมะนาวเหลือตกในช่องปากกรดมะนาวจะกัดผิวฟันให้กร่อนได้
5.สูตรลดความอ้วน
           วิธีทำ ทุกเช้าตื่นขึ้นมาดื่มน้ำมะนาวคั้น ลูก ผสมกับน้ำอุ่น แก้ว และก่อนรับประทานอาหารทุกมื้อให้ดื่มน้ำมะนาวคั้นครึ่งลูก ผสมกับน้ำอุ่นน้ำเย็นได้ทั้งนั้น แต่ก็มีข้อแม้คือห้ามใส่น้ำตาลลงไป ในน้ำมะนาวเด็ดขาด ส่วนเกลือนั้นเติมลงได้


การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพรของมะนาว
          1. ใบ - ใช้สด นำมาต้มกิน ใช้เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้ท้องอืด ท้องเสีย ช่วยขับลม และทำให้เจริญอาหาร 
          2. ผล - ใช้ผลสด นำมาคั้นน้ำกิน หรือกินสด เป็นยาแก้ กระหาย แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ เจริญอาหาร แก้เลือดออกตามไรฟันและถ่ายพยาธิ หรือใช้ผลดองเกลือจนเป็นน้ำสีน้ำตาล ใช้เป็นยาขับเสมหะทำให้ชุ่มคอ 
          3. เปลือกผล - ใช้เปลือกผลแห้ง ต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้จุกเสียด แน่น แก้ปวดท้อง ขับเสมหะ บำรุงกระเพาะอาหาร ขับลม
          4. ราก - ใช้รากสด นำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้การฟกช่ำจากการถูกกระแทก หรือการหกล้มแก้ปวด และแก้พิษสุนัขบ้า

สารเคมีและสารอาหารสำคัญ 
          ในผิวเปลือกของมะนาว มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย limonene,linalool,terpineol ในน้ำมะนาว มีสารเคมีเช่น Siaronoid,Organic acid,citral และวิตามินซี คุณค่าทางอาหารของมะนาว ประกอบด้วย น้ำ 89.37 เปอร์เซนต์แคลเซียม 0.033 เปอร์เซ็น ฟอสฟอรัส 0.024 เปอร์เซ็น เหล็ก 0.0006 เปอร์เซ็นต์ และโปรแทสเซียม 0.193 เปอร์เซ็นต์

          มะนาวเป็นพืชที่ให้ผลผลิตดีในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม ซึ่งถือเป็นช่วงที่มะนาวล้นตลาดจนบางคนเรียกว่าตลาดแยกเลยทีเดียว ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกจะต้องทนรับราคาถูกแสนถูกเหมือนซื้อแล้วได้เปล่า ต่างจากช่วงเดือนเมษายนที่ผลผลิตมะนาวยังมีออกสู่ตลาดไม่มากนักทำให้ราคาไม่ถูก ไม่แพงจนเกินไป คนปลูกยิ้มได้ คนซื้อก็พอใจแต่เมื่อถึงฤดูกาลที่มะนาวออกมามากก็นับผู้บริโภคเอง เนื่องจากประโยชน์ของมะนาวมีมาก ไม่เพียงปรุงแต่งรสชาติอาหาร แต่ยังรวมไปถึงประโยชน์ในการเป็นเครื่องสำอางราคาถูก
      มะนาวสามารถนำมาใช้เป็นครีมทาผิว ทำได้โดยนำมะนาวมาผ่าซีก ใช้ทาตามแขน ขา หรือส้นเท้า หรืออาจใช้เปลือกมะนาวที่คั้นน้ำออกแล้วมาทาบริเวณมือก็จะช่วยให้มือนิ่มนุ่มนวล ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้ผิวสดชื่น เปล่งปลั่ง ไม่แห้ง หรือจะนำมาทำน้ำยาดับกลิ่นปาก โดยก่อนแปรงฟันเตรียมน้ำมะนาวให้พร้อม ตัดผ้าขาวบางเป็นชิ้นเล็กๆตามขนาดที่ต้องการ แปรงฟันตามปกติเมื่อเสร็จแล้วให้เทน้ำมะนาวลงไปในผ้าขาวบางที่เตรียมไว้ จากนั้นนำมาอมไว้ในปาก หรือหั่นมะนาวเป็นชิ้นเล็กๆแล้วพันด้วยผ้าขาวบางอมไว้ ได้เช่นกัน การทำเช่นนี้น้ำมะนาวจะค่อยๆซึมผ่านออกสู่ไรฟัน ช่วยรักษารากฟัน กลิ่นปาก ทำให้หายใจโล่ง แก้ร้อนใน กระหายน้ำ มีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะนำมะนาวมาใช้ประโยชน์ หรือแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น มะนาวดองเปรี้ยวหวาน มะนาวแช่อิ่ม มะนาวผง น้ำมะนาว รวมทั้งวิธีต่างๆที่จะยืดมะนาวให้นานขึ้นทั้งในรูปแบบของการเก็บรักษา เช่น การฝังมะนาวลงในกระบะทราย การคั้นน้ำมะนาวเก็บไว้ หรือแม้แต่การใช้ภูมิปัญญาด้วยการเจาะมะนาวเป็นรูเล็กๆ เมื่อต้องการใช้ในปริมาณน้อยบีบเอาน้ำออกเมื่อใช้เสร็จแล้วก็นำเนยแข็งมาอุดรูไว้ก็จะช่วยประหยัดไม่ต้องเสียมะนาวไปทั้งลูก
          ส่วนการใช้ประโยชน์ในต่างประเทศมีรายงานพบว่า มีการใช้มะนาวเป็นยาคุมกำเนิดตั้งแต่อดีตแถบบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนด้วยการใช้สำลีชุบน้ำมะนาวแล้วสอดเข้าไปในช่องคลอดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ กรดซิตริกที่มีอยู่ 5% จะช่วยให้เสปิร์มไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าไปได้จำนวนครึ่งหนึ่งในเวลา 5 นาที วิธีการนี้อาจมีการใช้กันในบางพื้นที่ แต่สำหรับประเทศไทยคงต้องมีการศึกษา และวิจัยความเหมาะสม และความเสี่ยงกันอย่างจริงจังก่อนที่จะนำไปใช้เพื่อลดปัญหาและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

พันธุ์ที่นิยมปลูกในประเทศไทย




  • มะนาวไข่ ผลกลม หัวท้ายยาว มีสีอ่อนคล้ายไข่เป็ด ขนาด 2-3 เซนติเมตร
  • มะนาวแป้นเปลือกบาง ผลใหญ่ ค่อนข้างกลมแป้น เปลือกบาง มีน้ำมาก นิยมใช้บริโภคมากกว่าพันธุ์อื่นๆ ในเชิงพาณิชย์จะปลูก มะนาวพันธุ์แป้นรำไพและพันธุ์แป้นพวง สามารถบังคับให้ออกฤดูแล้งได้ง่าย
  • มะนาวหนัง ผลอ่อนกลมยาวหัวท้ายแหลม เมื่อโตเต็มที่ผลจะมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีเปลือกหนา ทำให้เก็บรักษาผลได้นาน
  • มะนาวทราย ทรงพุ่มสวยใช้เป็นไม้ประดับ ให้ผลตลอดปีแต่ไม่ค่อยนิยมบริโภค เพราะน้ำมีรสขมเจือปน
  • มะนาวพันธุ์อื่น ๆ ได้แก่ มะนาวฮิตาชิมะนาวหวานมะนาวปีนังมะนาวโมฬีมะนาวพม่ามะนาวเตี้ย และมะนาวหนัง เป็นต้น (มะนาวบางพันธุ์อาจเรียกได้หลายชื่อ แต่ในที่นี้ไม่ได้สืบค้นเพื่อจำแนกเอาไว้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น